ปักหมุดร้านใน Google Maps ไม่ขึ้น ต้องทำอย่างไร? คู่มือฉบับเต็มปี 2025
การปักหมุดร้านใน Google Maps หรือ Google My Business (GMB) ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าค้นหาร้านค้าของคุณเจอได้ง่ายขึ้น ทั้งบน Google Search และ Google Maps โดยเฉพาะลูกค้าที่อยู่ใกล้พื้นที่ธุรกิจของคุณ แต่ปัญหาที่เจ้าของธุรกิจหลายคนพบก็คือ “ปักหมุดร้านแล้ว แต่ Google Maps ไม่แสดงผล” หรือ “ร้านไม่ขึ้นเวลาเสิร์ช” ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อยอดขายและการเข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก
ในบทความนี้เราจะพาคุณเจาะลึกถึงสาเหตุที่ทำให้ปักหมุดร้านใน Google ไม่ขึ้น พร้อมวิธีแก้ไขแบบละเอียด ครบทุกขั้นตอน รวมถึงแนวทางการทำ Local SEO เพื่อผลักดันให้ร้านของคุณขึ้นอันดับต้น ๆ บน Google Maps
สาเหตุที่ปักหมุดร้านใน Google Maps ไม่ขึ้น
- ยังไม่ได้ยืนยันธุรกิจ (Verification)
การปักหมุดร้านใน Google Maps จะต้องมีการยืนยันตัวตนก่อน ซึ่งมักจะทำผ่านการรับจดหมาย PIN จาก Google หากยังไม่ได้ยืนยัน ร้านของคุณจะยังไม่แสดงต่อสาธารณะ - ข้อมูลไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง
เช่น ชื่อธุรกิจ, ที่อยู่, เบอร์โทร, เวลาทำการ หรือหมวดหมู่ธุรกิจไม่ชัดเจน ระบบ Google จะพิจารณาว่าไม่พร้อมให้แสดง - หมวดหมู่ธุรกิจไม่ตรงกับสิ่งที่คนค้นหา
หากเลือกหมวดหมู่ผิด เช่น เปิดร้านกาแฟแต่เลือกหมวดหมู่เป็น “ของเก่า” จะทำให้ Google ไม่แสดงร้านในผลการค้นหาที่เกี่ยวข้อง - ไม่มีความเคลื่อนไหวบนบัญชี
เช่น ไม่มีการโพสต์ข่าวสาร, รูปภาพ, รีวิว หรือการตอบกลับ Google อาจมองว่าร้านไม่มีความน่าเชื่อถือ - ร้านค้าอยู่ในพื้นที่ซ้ำซ้อน หรืออยู่ในพื้นที่ที่ Google ไม่อนุญาตให้ปักหมุด
เช่น อยู่ในศูนย์การค้าหรือสำนักงานที่มีร้านค้าอื่นใช้ที่อยู่เดียวกันจำนวนมาก - มีการละเมิดนโยบายของ Google
เช่น ใช้คำโฆษณาเกินจริงในชื่อธุรกิจ หรือใส่ Keyword เยอะเกินไป เช่น “ร้านกาแฟใกล้ฉัน ราคาถูก เปิด 24 ชั่วโมง สุขุมวิท”
วิธีตรวจสอบและแก้ไข เมื่อร้านไม่ขึ้นใน Google Maps
1. ตรวจสอบสถานะธุรกิจใน Google My Business
- เข้าไปที่ Google My Business แล้วเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Gmail
- ตรวจสอบว่าแสดงข้อความว่า “ธุรกิจได้รับการยืนยันแล้ว” หรือยัง
- ถ้ายัง ให้คลิก “ยืนยัน” และเลือกการยืนยันผ่านทางไปรษณีย์
2. ตรวจสอบข้อมูลธุรกิจให้ครบถ้วนและถูกต้อง
- ชื่อธุรกิจ ต้องไม่ใส่ Keyword เกินความจำเป็น เช่น ใช้แค่ “กาแฟบ้านสวน” ไม่ใช่ “กาแฟบ้านสวน กาแฟสด ใกล้ BTS สุขุมวิท”
- ที่อยู่ต้องตรงตามความเป็นจริง ใช้ที่อยู่ที่สามารถรับจดหมายได้
- เบอร์โทรศัพท์ และเว็บไซต์ (ถ้ามี) ควรเป็นข้อมูลจริง ไม่ใช้เบอร์ปลอม
- เวลาทำการควรระบุให้ชัดเจน เช่น จันทร์-ศุกร์ 08.00-18.00 น.
- เลือกหมวดหมู่ธุรกิจหลักและหมวดหมู่รองให้เหมาะสม เช่น “ร้านกาแฟ” + “ร้านเบเกอรี่”
3. ใส่ตำแหน่งหมุดให้ตรงที่สุด
- ลากหมุดในแผนที่ให้ตรงกับหน้าร้านจริง หากอยู่ในตึกหรือห้างให้ใส่หมายเลขชั้นและชื่อร้านให้ชัดเจน เช่น “ร้านอยู่ชั้น 2 หน้า McDonald’s”
4. เพิ่มรูปภาพคุณภาพสูง
- เพิ่มภาพหน้าร้าน, ภายในร้าน, เมนู, พนักงาน, สินค้า หรือบริการ ให้ดูน่าเชื่อถือและน่าสนใจ
- ภาพควรเป็นแนวนอน, ความละเอียดสูง, ไม่เบลอ หรือมีลายน้ำเกินไป
5. ขอรีวิวจากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
- รีวิวจากลูกค้าจะช่วยให้ Google มองว่าร้านของคุณมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานจริง
- ตอบรีวิวทุกอันทั้งแง่บวกและลบ เพื่อแสดงความใส่ใจลูกค้า
6. ใช้ฟีเจอร์ “โพสต์” ใน GMB
- ลงโพสต์อัปเดตข่าวสาร โปรโมชั่น หรือภาพกิจกรรมของร้านทุกสัปดาห์ เพื่อแสดงความเคลื่อนไหว
7. ตรวจสอบว่าธุรกิจของคุณแสดงใน Google Maps หรือยัง
- เสิร์ชชื่อร้านใน Google หรือ Maps โดยใช้ชื่อแบบตรง ๆ
- หากขึ้นว่า “กำลังรอการตรวจสอบ” หรือ “ไม่สามารถแสดงได้” อาจต้องรอระบบของ Google ตรวจสอบเพิ่มเติม
ทำอย่างไรให้ร้านติดอันดับแรก ๆ ใน Google Maps
นอกจากการแก้ไขปัญหาไม่ขึ้นหมุดแล้ว หากอยากให้ร้านติดอันดับต้น ๆ ในผลการค้นหา ให้ทำตามหลัก Local SEO ดังนี้
- เพิ่มความน่าเชื่อถือของโปรไฟล์
- ข้อมูลครบ, มีรีวิว, มีภาพ, มีโพสต์
- ใส่คำค้นท้องถิ่น (Local Keywords)
- เช่น “ร้านอาหารญี่ปุ่น รังสิต”, “ซ่อมมือถือ พระราม 2” ในคำอธิบายธุรกิจ หรือโพสต์
- ฝังแผนที่ Google Map บนเว็บไซต์ของร้าน
- เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเว็บไซต์และ GMB
- ทำ SEO บนเว็บไซต์ร่วมด้วย
- ให้เว็บไซต์ของร้านมีบทความหรือคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับบริการและพื้นที่ เช่น “5 ร้านกาแฟยอดนิยมในสาทร”
- ลงทะเบียนร้านในไดเรกทอรีท้องถิ่น
- เช่น Wongnai, LINE MAN, Grab, Facebook Page, ShopeeFood เพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงภายนอก (Citation)
สรุป
การรับปักหมุด Google Maps ไม่ใช่แค่เพื่อให้ลูกค้าเห็นร้านคุณ แต่เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ หากคุณเจอปัญหาปักหมุดแล้วไม่ขึ้น ให้เริ่มจากการตรวจสอบข้อมูล, ยืนยันตัวตน, ปรับปรุงโปรไฟล์ให้สมบูรณ์ และทำกิจกรรมกับบัญชีอย่างต่อเนื่อง
เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้แล้ว ไม่เพียงแต่ร้านคุณจะขึ้นแสดงผลใน Google Maps เท่านั้น แต่ยังมีโอกาสสูงที่จะติดอันดับแรก ๆ ได้อีกด้วย และที่สำคัญคือ เพิ่มยอดขายและความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้ในระยะยาว
หากคุณต้องการให้ร้านของคุณขายดีขึ้นในโลกออนไลน์ การดูแล Google My Business ให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
